ซ่อมห้าง vs ซ่อมอู่: เลือกแบบไหนดีสำหรับประกันรถยนต์? รู้ก่อนตัดสินใจเพื่อเบี้ยที่คุ้มค่า

 by admin

 June 13, 2025

in Uncategorized

 0

เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้รถยนต์คู่ใจได้รับความเสียหาย หนึ่งในคำถามสำคัญที่ผู้เอาประกันภัยต้องเจอคือ จะนำรถเข้าซ่อมที่ “ซ่อมห้าง” หรือ “ซ่อมอู่” ดี? ทางเลือกนี้ไม่เพียงส่งผลต่อความสบายใจและคุณภาพงานซ่อม แต่ยังมีผลโดยตรงกับ “เบี้ยประกันภัยรถยนต์” ที่คุณต้องจ่ายในแต่ละปีด้วย การทำความเข้าใจความแตกต่างจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งก่อนตัดสินใจซื้อหรือต่ออายุประกัน

ความแตกต่างระหว่างซ่อมห้างและซ่อมอู่คืออะไร?

• ซ่อมห้าง: หมายถึง การนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังของศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ โดยตรง เช่น หากคุณใช้รถยนต์ Toyota การซ่อมห้างคือการเข้าซ่อมที่ศูนย์ Toyota โดยตรง ไม่ว่าจะสาขาใดก็ตามที่บริษัทประกันมีข้อตกลงไว้
• ซ่อมอู่: คือ การนำรถเข้าซ่อมที่อู่ซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ทั่วไป ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทเอกชน

ในอดีต ผู้ใช้รถส่วนใหญ่มักมองว่าการซ่อมห้างนั้นให้ความมั่นใจในเรื่องมาตรฐานการให้บริการและคุณภาพงานซ่อม รวมถึงการใช้อะไหล่แท้จากผู้ผลิต ขณะที่อู่ซ่อมทั่วไปอาจมีมาตรฐานที่หลากหลายกว่า ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพงานและที่มาของอะไหล่ที่จะนำมาเปลี่ยน

ผลกระทบต่อค่าเบี้ยประกันภัย

เนื่องจากมาตรฐานและต้นทุนในการดำเนินงานที่สูงกว่า โดยเฉพาะค่าอะไหล่แท้ การเลือก “ซ่อมห้าง” ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จึงส่งผลให้ “เบี้ยประกันรถยนต์” มีราคาสูงกว่าการเลือก “ซ่อมอู่” อย่างเห็นได้ชัด นี่จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายด้าน “ประกันภัยรถยนต์” มักพิจารณา นอกเหนือจากการระบุชื่อผู้ขับขี่

ยกตัวอย่างการเปรียบเทียบค่าเบี้ย:

สมมติรถยนต์รุ่น Toyota Corolla Altis ปี 2016 เกียร์อัตโนมัติ ขนาดเครื่องยนต์ 1.8 รุ่น G หากต้องการทำประกันชั้น 1 แบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่:

• เลือกซ่อมอู่ที่บริษัทประกันแนะนำ: เบี้ยประกันอาจอยู่ที่ประมาณ 11,xxx บาทต่อปี
• เลือกซ่อมห้าง: เบี้ยประกันอาจสูงถึงประมาณ 15,xxx บาทต่อปี

จะเห็นว่ามีความแตกต่างของ “ราคาประกันรถยนต์” ได้ถึงหลายพันบาทต่อปีเลยทีเดียว

รถยนต์ในช่องซ่อมที่ศูนย์บริการมาตรฐาน แสดงถึงขั้นตอนการซ่อมประกันรถยนต์แบบซ่อมห้าง

การพัฒนาของอู่ซ่อมในปัจจุบัน: คุณภาพที่ทัดเทียม

อย่างไรก็ตาม มุมมองต่อ “อู่ซ่อมสีรถยนต์” ได้เปลี่ยนแปลงไปมากในปัจจุบัน อู่ซ่อมเอกชนจำนวนมากมีการพัฒนามาตรฐานอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านสถานที่ที่สะอาด เป็นระเบียบ มีการแบ่งโซนงานซ่อมชัดเจน (เคาะ, โป๊วสี, พ่นสี, ประกอบ) และมีการลงทุนในเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น ระบบผสมสีด้วยคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องดึงตัวถังแบบ 3 มิติ เพื่อให้ได้ “คุณภาพงานซ่อม” ที่แม่นยำและเป็นมาตรฐานเดียวกับศูนย์บริการ

การยกระดับมาตรฐานนี้ส่วนหนึ่งมาจากข้อกำหนดของบ