ประเภทรถยนต์แบบ Segment คืออะไร สำคัญต่อการเลือกซื้อและประกันภัยอย่างไร
by admin

ภาพรวมประเภทรถยนต์และ Segment ต่างๆ พร้อมคำอธิบายความแตกต่าง
การเลือกซื้อรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานและงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากปัจจัยอย่างยี่ห้อ รุ่น หรือราคารถยนต์แล้ว การทำความเข้าใจเรื่อง “Segment รถยนต์” ถือเป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการตัดสินใจ ซึ่งการแบ่ง Segment นี้ ไม่เพียงช่วยให้เห็นภาพรวมของขนาด สมรรถนะ และกลุ่มเป้าหมายของรถแต่ละประเภท แต่ยังส่งผลถึงการประเมินเบี้ยประกันภัยรถยนต์อีกด้วย มาดูกันว่า Segment รถยนต์คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรบ้าง
ทำความรู้จัก Segment รถยนต์
Segment Car คือระบบการจัดประเภทรถยนต์ตามขนาดตัวถัง ซึ่งมีต้นกำเนิดและเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในทวีปยุโรป จนกลายเป็นมาตรฐานสากล โดยจะใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเรียงตามลำดับขนาดจากเล็กไปใหญ่ เพื่อบ่งบอกกลุ่มของรถยนต์นั้นๆ การแบ่งตาม Segment ช่วยให้ผู้บริโภคเห็นความแตกต่างและข้อได้เปรียบของรถในแต่ละกลุ่มได้ง่ายขึ้น
ภาพรวมประเภทรถยนต์และ Segment ต่างๆ พร้อมคำอธิบายความแตกต่าง
นอกจากขนาดแล้ว ในบางครั้งอาจมีการพิจารณาถึงขนาดเครื่องยนต์ ลักษณะการใช้งาน หรือระดับความหรูหราประกอบด้วย แต่หลักเกณฑ์พื้นฐานคือการแบ่งตามขนาดตัวถัง ดังนี้
รถ A Segment
เป็นกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กที่สุด หรือที่มักเรียกว่า City Car หรือ Micro Car เน้นความกะทัดรัด ขับขี่ง่ายในเมือง มีขนาดเครื่องยนต์ typically อยู่ในช่วง 600-1,000 ซีซี โดดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถสำหรับการเดินทางระยะสั้นในเขตเมืองเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น Nissan March, Suzuki Celerio
รถ B Segment
กลุ่มนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นมาจาก A Segment เล็กน้อย มักเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กยอดนิยม (Subcompact Car) ขนาดเครื่องยนต์โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 1,000-1,500 ซีซี เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย เนื่องจากมีขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งในเมืองและเดินทางข้ามจังหวัด ตัวถังมีทั้งแบบ Hatchback และ Sedan เป็นรถยนต์ราคาไม่สูงมากที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ง่าย ตัวอย่างเช่น Toyota Vios, Honda City, Mazda 2
รถยนต์ B Segment รุ่นยอดนิยม แสดงให้เห็นขนาดตัวถัง
รถ C Segment
รถยนต์ในกลุ่มนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมักมีสมรรถนะที่สูงกว่า B Segment (Compact Car) ขนาดเครื่องยนต์อยู่ในช่วง 1,500-2,200 ซีซี ให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางขึ้น รองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล มักมาพร้อมเทคโนโลยีและฟังก์ชันที่มากขึ้น ตัวอย่างเช่น Honda Civic, Toyota Corolla Altis, Mazda 3
รถ D Segment
รถยนต์ขนาดกลางถึงใหญ่ (Mid-size/Large Family Car) ในกลุ่มนี้มักจะเน้นความสะดวกสบาย สมรรถนะที่ดี และความหรูหราที่เพิ่มขึ้น ขนาดเครื่องยนต์ typically อยู่ที่ 2,500 ซีซีขึ้นไป มักมาพร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยที่ครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่ให้ความพรีเมียมและพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง ตัวอย่างเช่น Toyota Camry, Honda Accord, BMW Series 3
![[หนังเต็มเรื่อง] 503H0815 T เป็นประธานบริษัทอยู่ดีๆ กลายเป็น รปภได้อย่างไร](https://reviewfilmthai2.themtraicay.com/wp-content/uploads/2025/08/image-150-1.png)
![[หนังเต็มเรื่อง] 739H0815 X ยามแม่ลำบากก็หวังพึ่งลูก](https://reviewfilmthai2.themtraicay.com/wp-content/uploads/2025/08/image-149-1.png)